สวัสดีค่ะทุกๆคน

ฉันชื่อปริญญา ตั้งแต่เด็กๆ ฉันไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิงที่ชื่อปริญญาเลยซักคน ในทางกลับกันฉันมักมีเพื่อนผู้ชายชื่อปริญญา เยอะแยะ ทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่า เอ..แม่ฉันอยากให้ฉันเกิดเป็นผู้ชายรึเปล่า จึงตั้งชื่อฉันอย่างนี้ แต่ฉันก็ชอบชื่อนี้นะ เพราะว่ามันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันมีความห้าวหาญไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอกทีเดียวเชียว

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

วันพ่อ พาพ่อเที่ยว นิทรรศการอวกาศ “นาซา เอ ฮิวแมน แอดเวนเจอร์” (NASA - A HUMAN ADVENTURE)

              พอดีเห็นข่าวในโทรทัศน์ บอกว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน)  , บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด(มหาชน) และ บริษัท ไทยคม จำกัด(มหาชน)  เค้าร่วมกันจัดนิทรรศการอวกาศ “นาซา เอ ฮิวแมน แอดเวนเจอร์” (NASA - A HUMAN ADVENTURE) ที่บางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ (Bangkok Convention Center) ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
            ค่าบัตรราคา
 - 500 บาท (บัตรผู้ใหญ่วันหยุดราชการและนักขัตฤกษ์)
 - 400 บาท (บัตรผู้ใหญ่ weekday)
 - 350 บาท (บัตรเด็กวันหยุดราชการและนักขัตฤกษ์)
 - 250 บาท (บัตรเด็ก weekday)

* ข้อมูลจาก  http://www.thaiticketmajor.com

              คุณสามีอยากไป ด้วยความที่ค่าบัตรสูงพอสมควร เราเลยเฟ้นหาบัตรลดราคา และบัตรฟรี จนในที่สุด ก็ได้บัตรฟรี 3 ใบ จากไทยคมมา ครอบครัวเราเลยได้ไปเที่ยวงานนี้กันฟรี อิอิ   ขอขอบพระคุณบริษัทไทยคมมา ณ ที่นี้
              เราได้บัตรเข้าชม ในวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันหยุด และคนเยอะมากๆ พวกเราต้องนำเอกสารที่ไทยคมให้มาไปแลกบัตรจริงเพื่อเข้างาน และรอรับหูฟัง สำหรับฟังคำบรรยายอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่เราก็รอกันจนได้เข้าไปในที่สุด (ของฟรี แม้คนจะเยอะ แค่ไหน เราก็รอได้อยู่แล้ว)

               พอได้เข้าไปข้างในทิทรรศการ คนไม่เยอะเท่าตอนรอข้างนอกค่ะ เดินดูกันสบายๆ ก็ถือว่าคุ้มค่าสุดๆงานนี้ ด้านในนิทรรศการสามารถถ่ายรูปได้ แต่ห้ามใช้แฟลช และห้ามถ่ายวิดิโอ เราจึงแบกขาตั้งกล้องกันไป หุหุ สนุกสนานกันใหญ่เลย  ลูกชายสนุกมาก ตื่นตาตื่นใจสุดๆ นิทรรศการดีๆแบบนี้ ไม่สามารถหาดูได้ง่ายๆในเมืองไทยแน่นอน




            ก่อนออกจากส่วนนิทรรศการ ก็แวะถ่ายรูปสักหน่อย ค่าถ่าย 100 บาทค่ะ เค้ามีหุ่นมาตั้ง ให้ยื่นหน้าเข้าไป แต่เราต้องถ่ายเองนะคะ ไม่มีคนถ่ายให้ ให้ถ่ายได้หลายรูปค่ะ แล้วแต่เรา หากไม่เกรงใจคนต่อคิว แหะๆ
              นิทรรศการจัดไปจนถึง1 กุมภาพันธ์ 2558  ใครยังไม่ได้พาลูกๆไปดู ยังพอมีเวลานะคะ ข้อมูลโปรโมชั่น ส่วนลดต่างๆ สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ http://www.thaiticketmajor.com/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%94-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99-nasa-a-human-adventure-the-exhibition-2744.html ค่ะ  ขอให้สนุกกันนะคะ

วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

แวะชมดอกไม้งามๆ รับวันปีใหม่ ที่บ้านเรา ราชบุรี เมืองคนอาร์ต

                    
           ปีใหม่ปีนี้ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน เพราะไม่มีเงิน  แต่ก็อยากเที่ยวอยู่ดีนะ งั้นก็ขอไปเที่ยวใกล้ๆ ในจังหวัดราชบุรีของเรานี่ละกัน ปีนี้ ราชบุรีได้รับการโปรโมตให้เป็นเเหล่งท่องเที่ยว จาก ททท.เชียวนะ "ราชบุรี เมืองคนอาร์ต" เราจึงไม่พลาด ไปเที่ยวชมดอกไม้ กันดีกว่า
           ที่แรกที่จะพาไปเที่ยวชมกัน คือ The Blooms สวนและฟาร์มกล้วยไม้ ที่สวยงาม และใหญ่มาก มีเนื้อที่กว่า 100 ไร่  ณ อ.บางแพ จ.ราชบุรี นอกจากนี้ชมสวนกล้วยไม้สวยๆแล้ว ยังมีกิจกรรมการให้อาหารแกะ   ขี่จักรยานชมธรรมชาติ   ชมแปลงนา  แปลงพืชสมุนไพรและผักปลอดสารพิษ อีกด้วย
 ภายในสวนไม่ได้มีแต่กล้วยไม้อย่างเดียวเหมือนฟาร์มกล้วยไม้ทั่วไปที่เคยไปมา แต่มีการตกแต่งเป็นสวนป่า มีต้นไม้ใหญ่ยืนต้น ร่มรื่นมากๆ มีลำธาร น้ำตก สะพาน และมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมายเลยค่ะ

 สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปปั๊บ อัพรูปปุ๊บ ที่นี่เค้าก็มีฟรี wifi ให้ใช้กันด้วยนะคะ ขอรับ password ได้ที่จุดขายบัตรได้เลยค่ะ

ค่าเข้าชมสวนกล้วยไม้ 80 บาทเท่านั้น ส่วนท่านใดจะเข้าไปเลี้ยงแกะ หรือชมแปลงพืชสมุนไพร ต้องจ่ายเพิ่ม เท่าไหร่ไม่รู้ เพราะไม่ได้เข้าค่ะ แหะๆ ไว้มีโอกาสไปคราวหน้า จะเข้าแล้วมาเล่าให้ฟังนะคะ
               ที่ที่สองที่ได้ไปมาคือ  ทุ่งทานตะวัน ที่โครงการพระราชดำริเขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ค่ะ ปกติโครงการพระราชดำริ เขาชะงุ้ม จะเปิดให้ผู้สนใจ เข้าชมโครงการได้ตลอดปี แต่ในช่วงปีใหม่ของทุกปี จะมีทุ่งดอกทานตะวันบานให้เราได้ไปเที่ยวชมได้ฟรีค่ะ



ก่อนกลับแวะซื้อ ผักปลอดสารพิษ และผลิตภัณฑ์ต่างๆจากชาวบ้านที่นำมาขายในบริเวณด้านหน้าทุ่งทานตะวันนั้นได้ค่ะ ราคาไม่แพง สด และอร่อยมากๆ  อิอิ

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

P2N Pizza and Bekery

P2N เป็นร้านพิซซ่าและขายอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน รวมถึงอาหารไทยและเบเกอรี่ ร้านตั้งอยู่ซ้ายมือ ริมถ.เพชรเกษม ก่อนจะถึงอ.ทับสะแก ป้ายร้านขนาดใหญ่มองเห็นชัดมากรับรองหาเจอแน่นอนค่ะ


บรรยากาศด้านนอกร้าน แต่งสวนได้อย่างสวยงาม ร่มรื่น และน่านั่งมากๆ ลูกค้าสามารถเลือกนั่งด้านในร้านที่เป็นห้องแอร์หรือจะนั่งด้านนอก ใกล้กับสวนสวยๆก็ได้ แล้วแต่ความชอบ ห้องน้ำสะอาดสุดๆ แถมมีห้องน้ำสำหรับเด็กอีกด้วยน่ารักจริงๆ และที่ขาดไม่ได้คือรสชาติอาหาร ที่อร่อยแถมราคาไม่แพงอีกด้วยล่ะ

สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม อร่อยค่ะ โดนลูกชายแย่งกินเกือบหมดจาน

ขนมปังกระเทียม หอมและกรอบอร่อยมากกกก


ยำตะไคร้กุ้งสด รสชาติจัดจ้านกำลังดี ตะไคร้ก็อ่อนเคี้ยวไม่มีเหนียว แถมให้เม็ดมะม่วงเยอะแบบไม่หวงเลย


เค้กน่ากินหลากหลายชนิดที่โชว์ตัวอยู่ในตู้ ช่างน่ากินมากมาย จนต้องสั่งมาคนละชิ้น


วันที่ไปสั่งอาหาร 5 อย่าง พายกรอบ 1 กล่องและเค้ก อีก 3 ชิ้น รวมราคาแค่ 500 กว่าบาทเท่านั้นเอง ขากลับอยากจะแวะกลับไปทานอีก แต่ว่ามาถึงร้านเร็วไป ยังอิ่มจากอาหารเช้าอยู่ เลยจำใจต้องผ่านร้านไปด้วยใจระเหี่ย ตั้งปณิธานไว้ว่า ถ้ามาประจวบฯคราวหน้าจะต้องแวะมาชิมพิซซ่าร้านนี้ให้ได้


เยี่ยม!! ไปเลยครับแม่



พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ Waghor Aquarium

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ ตั้งอยู่ที่ ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดแสดงสัตว์น้ำหลากหลายชนิดทั้งน้ำจืด และน้ำเค็ม


การเดินทางเข้าสู่อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ทำได้โดยขับถไปตามถนนเพชรเกษม จากสี่แยกประจวบฯ ลงไปทางใต้ อีกประมาณ 16 กิโลเมตร จนถึงหลักกิโลเมตรที่ 335 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่บ้านหว้าโทน ขับตามทางเข้ามาอีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร และข้ามทางรถไฟเข้าสู่อุทยานฯ หรือ จากสี่แยกประจวบฯ หลักกิโลเมตรที่ 323 เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองประจวบฯ ขับรถตามถนนสละชีพ ผ่านกองบิน 5 (อ่าวมะนาว) จนถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ (แยกไฟแดงคลองวาฬ) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่หมู่บ้านคลองวาฬ ขับรถตามทางจนถึงอุทยานฯ (เส้นทางจากกองบิน 5 - อุทยานฯ ประมาณ 10 กม.) ซึ่งระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกทางตลอด รับรองว่าไม่หลงแน่นอนค่ะ


พิพิธภัณฑ์เปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ค่าเข้าชมสำหรับเด็ก 10 บาท(สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร), ผู้ใหญ่ 20 บาท แต่วันที่ไปเค้าคิดแต่ของผู้ใหญ่ เด็กให้เข้าฟรีค่ะ ใจดีจัง
พอเข้าไปส่วนแรก ก็จะมีการจัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืด ซึางหลายๆชนิดก็ดูคุ้นตา พบเห็นได้ตามตลาด เช่นปลาตะเพียน ปลาสวาย บางชนิดไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ เคยเห็นเฉพาะเนื้อมัน ได้แก่ ป
ลากราย ก็มีจัดแสดงให้ได้ดูกันด้วย
ถัดจากโซนปลาน้ำจืดก็จะมีปลาที่อยู่ตามป่าชายเลน แล้วก็ต่อด้วยปลาน้ำเค็ม ก็มีหน้าคุ้นๆอยู่หลายตัวเลยค่ะทั้งปลาเก๋า ปลาปักเป้า ปลามังกร แล้วก็อีกมากมาย เยอะไม่แพ้ที่ม.บูรพาเลยที่เดียว แต่ไม่มีปลาหมึก แล้วก็ม้าน้ำนะ อื่นๆก็คล้ายกันกับที่ม.บูรพาค่ะ

และที่นี่ยังมีแท็งค์ปลาขนาดใหญ่ ที่มีปลาขนาดยักษ์และฉลามนักล่าแห่งท้องทะเล ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่เด็กๆเป็นอย่างมาก โดยลักษณะของแท้งค์มีทางลาดวนรอบแท็งค์จากชั้นบนลงมาชั้นล่าง ความสูงประมาณตึกสองชั้นได้ คล้ายกับ โอซาก้า อะควอเรี่ยม เลย แต่เล็กกว่าและค่าเข้าชมถูกกว่ามากกกกกกก

นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์ปลาให้ได้เดินดูปลาจากด้านล่าง คล้ายกับเดินอยู่ใต้ท้องทะเลทีเดียว แม้ว่าอุโมงค์จะไม่ยาวนัก แต่ก็มีปลาเยอะพอสมควร สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยเลย


ด้านนอกยังมีอ่างน้ำให้สามารถดูปลาดาว และปลาการ์ตูนได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วยนะคะ ไม่แน่ใจว่าเค้าอนุญาตให้จับได้รึเปล่า แต่คุณลูกชายก็เอามือไปกวนในอ่างเรียบร้อยแล้ว หวังว่าปลาเค้าจะไม่ตายนะคะ

หากใครพอมีเวลาสามารถแวะไปเที่ยวชมกันได้นะคะ ข้อดีของที่นี่คือราคาไม่แพง คนเข้าชมน้อย ไม่ต้องเบียดเสียดยัดเยียดกัน และปลาเค้าก้เยอะ หลากหลายไม่แพ้ที่อื่น (ที่แพงกว่านี้) แถมยังมีจุดอื่นๆภายในอุทยานวิทยาศาสตร์ให้เข้าชมได้อีกนะคะ เช่นอาคารดาราศาสตร์และอวกาศ ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการด้านดาราศาสตร์ให้ได้ชมกันด้วย น่าจะเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เด็กๆน่าจะชอบค่ะ