สวัสดีค่ะทุกๆคน

ฉันชื่อปริญญา ตั้งแต่เด็กๆ ฉันไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิงที่ชื่อปริญญาเลยซักคน ในทางกลับกันฉันมักมีเพื่อนผู้ชายชื่อปริญญา เยอะแยะ ทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่า เอ..แม่ฉันอยากให้ฉันเกิดเป็นผู้ชายรึเปล่า จึงตั้งชื่อฉันอย่างนี้ แต่ฉันก็ชอบชื่อนี้นะ เพราะว่ามันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันมีความห้าวหาญไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอกทีเดียวเชียว

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ปั่นจักรยานเที่ยว โครงการชั่งหัวมัน

โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ


โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ ตั้งอยู่อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เป็นโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพลิกฟื้นผืนดินอันแห้งแล้งให้กลายเป็น พื้นดินอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งรวมเอาพืชเศรษกิจของจังหวัดเพชรบุรีมารวมกันเอาไว้ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และทดลองปลูกพืชเศรษฐกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หน่อไม้ฝรั่ง มะนาว ชมพู่ กล้วย มะพร้าว ฯลฯ โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ และประชาชน ในการสร้างและพัฒนาโครงการนี้ขึ้นมา
โครงการจะอยู่ในการดูแลของทหาร ก่อนเข้าจะต้องแลกบัตร แต่ ไม่ต้องเสียค่าเข้าชมนะคะ แถมมีจักรยานให้ปั่นได้ฟรี พร้อมบริการร่มกันแดด อีกด้วย เพียงแต่พี่ทหารบอกว่าจะช่วยบริจาคเพื่อบำรุงพื้นที่ก็ได้ตามกำลังศรัทธานะจ๊ะ เมื่อไปถึงเราก็ต้องลงชื่อในสมุดบันทึกบุคคลและยานพาหนะเข้า-ออกกันก่อน เมื่อเรียบร้อยแล้วก็พร้อมลุย โดยเลือกจักรยานคู่ใจหนึ่งคันแล้วก็เริ่มปั่นกันได้เลย
รอบๆโครงการก็จะมีดอกไม้ และแปลงผักสาธิตต่างๆ มีสวนมะนาว แล้วก็มีกังหันลมเพื่อกำเนิดไฟฟ้าขนาดยักษ์ ซึ่งกังหันลมนี้สามารถปั่นไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในโครงการได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากในโครงการมีลมพัดตลอดเวลา ในวันที่ไปกังหันลมไม่หยุดหมุนเลย จึงทำให้อากาศค่อนข้างดี และไม่ร้อน หลังจากเที่ยวชมจนรอบแล้วก็รู้สึกทึ่ง ในพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ที่พระองค์สามารถพลิกฟื้นผืนดินที่แห้งแล้งให้มีความอุุุดมสมบูรณ์เช่นนี้ได้ภายในระยะเวลาประมาณ 1 ปีเท่านั้นเอง
หลังจากชมโครงการชั่งหัวมันจนเต็มอิ่มเราก็ไปแวะกันต่อที่ ศูนย์เรียนรู้ทางการเกษตรเขากระปุก ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพฯกันต่อ ที่นั่นก็เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี แถมมีผักปลอดสารพิษจำหน่ายในราคาถูกแสนถูกอีกด้วย ลุงๆป้าๆที่เป็นชาวบ้านซึ่งเข้าไปทำงานในศูนย์ก็ใจดีน่ารักสุดๆ บอกว่าอยากได้ผักอะไรก็ไปเด็ดสดๆจากต้นเลยก็ได้ วันนั้นเราเลยอุดหนุน คะน้าและถั่วฝักยาวมาอย่างละ 1 กิโล ผักกาดขาว 2 หัวใหญ่ กับแตงโมอ่อนอีก 1 ถุง รวมราคาผักกองโต แค่ 60 บาทเท่านั้น
ตอนจ่ายเงินเรายังตกใจ ถามป้าว่าทำไมถูกจัง ป้าเลยตอบว่า สมเด็จพระเทพฯท่านให้ขายราคาส่ง เพราะอยากให้ประชาชนได้กินของถูกๆที่มีคุณภาพ เล่นเอาปลื้มสุดๆ ดีใจจริงๆที่ได้เกิดเป็นพสกนิกรของท่าน วันนั้นเลยทั้งอิ่มใจและอิ่มท้องไปกับผักหวานกรอบแสนอร่อย ใครมีโอกาสอย่าลืมแวะเข้าไปอุดหนุนกันนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น: